แจ้งเพื่อทราบว่าบล็อกเกอร์นี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขอขอบคุณที่เข้ามาเยียมชม

ชอบๆๆๆ

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อยากรวย พึ่งหวยได้หรือ

เคล็ดลับของพ่อมดการเงิน คือ การเรียนรู้ความเสี่ยงและวิธีการบริหารความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด

หลักสูตรพ่อมดการเงิน







 สิ่งสำคัญที่นักเล่นหุ้นต้องมี       “เงินไม่ใช่ปัจจัยหลักในตลาดหุ้น ความรู้ต่างหากที่ต้องมี” ถ้าวันนี้ตั้งใจจะลงทุน ควรสำรวจตัวเองก่อนว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับหุ้นมากพอหรือยัง เราต้องหาความรู้ก่อนเมื่อไม่มีความรู้ จึงไม่สมควรที่จะลงทุน
       อาจารย์ยุ้ยพูดถึงหนังสือเล่มโปรดที่เธอชอบเป็นพิเศษ ชื่อว่า “เงินสี่ด้าน” ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ เขาบอกว่า “สิ่งที่คนชอบมากที่สุด คือการเป็นนักลงทุน ใช้เงินทำงานแทน แต่ทุกคนจะถูกหลอกเสมอว่าคุณต้องเป็นพนักงานประจำก่อน แล้วค่อยเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ ทุกอย่างมัน
       เริ่มต้นได้ที่การลงทุน โดยการใช้เงินไปต่อเงิน ทุกคนอาจคิดว่าต้องรอมีเงินมากๆ ไม่ว่าคุณจะมีเงินหลักพัน หลักแสน หลักล้านไม่ได้สำคัญ สำคัญที่คุณมีความรู้รึเปล่า”
       เริ่มลงทุนหลักพันคุณทำได้ “ต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อย เป็นพันล้าน ถ้าคุณไม่มีความรู้ มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าคุณไม่มีความรู้ก็อย่าเอาเงินไปเททิ้ง”
       เมื่อมีความรู้แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก่อนที่จะเป็นนักลงทุนได้คือ การปล่อยวางความกลัว และสร้างความกล้าหาญให้แก่ตัวเอง หลายคนอาจคิดว่าตลาดหุ้นเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง ฉะนั้นเราต้องศึกษาว่าตัวเองกลัวอะไร กลัวเพราะไม่รู้ใช่ไหม เมื่อไม่รู้ต้องทำให้รู้แล้วเราก็จะไม่กลัวมัน เราต้องเดินหน้าและสร้างความกล้าหาญที่จะฝึกทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อเอาชนะและก้าวข้ามความกลัวไปให้ได้
      
       ขั้นตอนทำกำไรแบบมืออาชีพ
       เมื่อขจัดความกลัว และสร้างพลังให้แก่ตัวเองได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือคุณต้องวิเคราะห์การลงทุนในตลาดว่าตลาดไหนสร้างผลประโยชน์ให้เราได้มากที่สุด “ถ้าเราไม่รู้ว่าเมื่อลงทุนแล้วจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนไปไหม มันย่อมไม่ดี”
       สิ่งที่เราต้องวิเคราะห์เพื่อเริ่มการลงทุน คือ 1.ตลาด ตลาดหลักทรัพย์มีทั่วโลกเลย แล้วตลาดไหนดี 2.การทำกำไร ต้องใช้กลยุทธ์ในการทำกำไรแบบไหน เราจะป้องกันความเสี่ยงในการทำกำไรได้อย่างไร และ 3.จากนั้นเราจะมีการวางแผนจัดการทางด้านการเงินอย่างไรให้ทำกำไรได้ดีที่สุด ซึ่งทุกอย่างล้วนมีขั้นตอนทั้งหมด
       “ส่วนใหญ่คนที่มาเรียน เขาอยากรู้ว่าการเริ่มนับ 1 ต้องทำยังไงถ้านับ 1 ได้ 2 3 4 5...มันก็ไม่ได้เป็นปัญหา ถ้ายังไม่มีความรู้พื้นฐาน จึงต้องสอนตั้งแต่เริ่มต้น หุ้นคืออะไร ตลาดหุ้นมีอะไรบ้าง แล้วเราจะมาดูว่านักเรียนแต่ละคนเหมาะกับการเป็นนักเก็งกำไรมืออาชีพ หรือเหมาะที่จะเป็นนักลงทุนมืออาชีพ”
       “นักเก็งกำไรมืออาชีพ คือคนที่แสวงหาโอกาส เมื่อมีโอกาสมีอีเวนต์ต่างๆ เข้ามา ปกติเราจะลงทุนโดยใช้ปัจจัยพื้นฐาน และการดูกราฟ สองสิ่งนี้บ้านเราใช้มานานแล้ว อย่าง จอร์จ โซรอส นักเก็งกำไรระดับโลก เขาจะมองหาโอกาส อีเวนต์หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการทำกำไร เช่น ที่ผ่านมาเกิดหุ้นร่วงหนักๆ แสดงว่าสภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ทองขึ้นเพราะอะไร ทุกอย่างเขาเรียกว่าเหตุการณ์ทั้งหมด ถ้าเราจับเหตุการณ์พวกนี้ได้ เราสามารถใช้เงินแค่นิดเดียว สร้างเงินได้อย่างมหาศาล นี่แหละเรียกว่านักเก็งกำไร”
       เมื่อมีโอกาสสามารถทำเงินได้มากมายมหาศาล ถ้าจับจังหวะตลาดได้ด้วยความรู้อย่างมืออาชีพจริง และถ้าวันนี้สามารถสร้างเงินได้มากที่สุด แต่ถ้าบริหารความเสี่ยงไม่เป็นก็ไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นการทำกำไรจึงเป็นความท้าทายของนักเล่นหุ้นมืออาชีพ

      
       ตลาดหุ้น ตปท. กำไรสูง ความเสี่ยงต่ำ
       “ง่ายที่สุด ปลอดภัยที่สุด และสร้างผลตอบแทนได้มากที่สุด” เป็นประเด็นหลักให้เธอตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งมีข้อดีหลายปัจจัยที่นักลงทุนหลายคนมองข้าม
       “ถ้าการลงทุนในตลาดทั่วๆ ไป เขาจะมีการกำหนดจุดทำกำไรต่างๆ ไว้ เช่น ทำกำไรสูงสุดต่อวันได้ 30% นะ แต่ในอเมริกาเขาไม่จำกัดเพดานกำไร สามารถทำกำไรได้สูงสุดเท่าที่ศักยภาพที่คุณมี และมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ ตลาดหุ้นในต่างประเทศมี Stop loss คือการตัดขาดทุนแบบอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องนั่งเฝ้า เช่น คุณลงทุนไป 100 บาทแล้วบอกว่าสามารถรับความเสี่ยงได้ 10 บาท คุณซื้อหุ้นที่ 100 ตั้ง Stop loss ที่ 90 เลย ถ้าหุ้นตกมาถึง 90 ปุ๊บ ระบบจะออโตรันตัดขาดทุนอัตโนมัติทันที ทำให้เราสามารถจำกัดการขาดทุนได้”
       “ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง เราต้องมีกลยุทธ์ในการทำกำไร ปีนี้เป็นปีทองมันจะมีโอกาสเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ5 ปี ขณะที่ทุกคนกำลังวิตกจริตกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่เรามีโอกาสทำกำไรได้มาก เพราะเมื่อหุ้นร่วงหนักทุกคนกำลังกลัว แล้วคุณจะพลิกวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสได้ยังไง เราต้องเป็นคน 5% ไม่ใช่คน 95% คน 95% จะมองเห็นแต่วิกฤตเยอะแยะไปหมด แต่คน 5% เท่านั้นในตลาดหุ้นที่สามารถทำกำไรได้ คือต้องมองหาโอกาสในวิกฤตนี้ให้เจอ แล้วคุณจะเป็นผู้สร้างความมั่งคั่งคนใหม่”
       ข้อจำกัดของคนเล่นหุ้นคือ ความโลภ คนเราเล่นหุ้นก็ต้องอยากรวย เมื่ออยากรวยจึงต้องรู้ว่าทำกำไรอย่างไรให้ฉลาดที่สุด คือได้ผลตอบแทนสูงที่สุด ความเสี่ยงต่ำที่สุด นั่นแหละคือคีย์ของตลาดหุ้น ดังนั้นจึงต้องบริหารความเสี่ยงเพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด
      
       หุ้นไอทีทำเงิน

       ที่ผ่านมามีช่วงหนึ่งที่คนแห่ซื้อทองอย่างหนัก นักลงทุนหวังเก็งกำไรจากทองคำ แต่จริงๆ แล้ว หุ้นที่คนนิยมเล่น ไม่จำเป็นต้องทำเงินเสมอไป เธอจึงแนะนำหุ้นที่น่าสนใจในตลาดอเมริกาหลาย Sectorและที่น่าจับตามองคือกลุ่มไอที เทคโนโลยี เนื่องจากโลกปัจจุบันอยู่ในยุคข้อมูลข่าวสารนั่นเอง
       “พอมี iPadออกมา แสดงว่าหุ้นของมันอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เราก็มีโอกาสทำกำไรได้แล้ว แต่หุ้นไอทีไม่ได้มีเพียงตัวเดียว ถ้าคิดในปีหนึ่งเขาผลิตสินค้าใหม่ 1ตัวต่อบริษัท มันจึงทำกำไรได้เยอะมากและง่ายที่สุดด้วย”
       หุ้นกลุ่มไหนได้ผลตอบแทนสูง นักเล่นหุ้นก็แย่งกันลงทุน เมื่อหุ้นร่วงจึงไม่ต่างอะไรกับ “แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ” ซึ่งยุ้ยให้ข้อคิดตรงนี้ว่า “เราต้องใช้จิตวิทยาในการลงทุน ลงทุนในสิ่งที่ต่างจากคนอื่นทำ มองและคิดหลายชั้นในหตุการณ์ที่เจอว่าเราจะทำกำไรจากเหตุการณ์นั้นได้อย่างไร จะลงทุนกลุ่มไหนก็ต้องอินเทรนด์ตามเหตุการณ์ปัจจุบันด้วย ตลาดเปลี่ยน โลกเปลี่ยน เราต้องเปลี่ยนให้ทันโลก”
       “มีคนเคยบอกว่าตลาดหุ้นไม่เคยเปลี่ยน แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือนักลงทุน กับราคาทุนที่เปลี่ยนแปลงไป และตลาดหุ้นจะอยู่กับเราเสมอ เพราฉะนั้นคนที่ลงทุนในตลาดหุ้น สามารถหาเงินได้ตลอดทั้งชีวิต เพราะตลาดหุ้นมีทุกวัน และมีไปตลอดด้วย ตลาดหุ้นไม่มีเอาต์มีแต่อินเทรนด์ตลอด (หัวเราะ)”

(ที่มา : http://www.manager.co.th/daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000156274)